วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

วิจัยข่า...ใช้ต้านผิวหนังสัตว์ พัฒนาตำราโบราณ คุณสมบัติออกมาดี..


สุขภาพสัตว์...เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นภาคปศุสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ หรือว่าสัตว์ที่น่ารักสำหรับผู้รักสัตว์... โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคผิวหนังซึ่งมีอิทธิพลต่อราคาซื้อขายสัตว์
นักวิชาการที่เกี่ยวข้องจึงได้หาวิธีที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงทั้งหลายปลอดจากโรคผิวหนัง ซึ่งก็มี ผศ.การันต์ ชีพนุรัตน์ และอาจารย์ไฉน น้อยแสง 2 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี วิทยาเขตปทุมธานี จึงได้นำเอาข่าอันเป็นทั้งอาหาร และสมุนไพรเป็นวัตถุดิบในการต้านเชื้อแบคทีเรียทำให้ เกิดโรคผิวหนังในสัตว์ได้เป็นผลสำเร็จ
เจ้าของงานวิจัย บอกว่า...งานวิจัยเกี่ยวกับโรคผิวหนังสัตว์ ได้มุ่งถึงประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียในสัตว์ เพราะโรคผิวหนังอักเสบในสัตว์ที่เกิดจากแบคทีเรียส่วนมากเกิดจากกลุ่ม Staphylococcus spp และมีการตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะน้อย...
โดยเฉพาะ กลุ่ม ยาเพนนิซิลิน ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นสารเคมี อันจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ซึ่งทำให้เกิดการแพ้ยาได้ และหากมีการใช้ยาเป็นระยะเวลานานๆแล้วยังเกิดปัญหาการดื้อยา และยาเหล่านี้จะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ทำให้ต้องเปลี่ยนยาตัวอื่นซึ่งมีผลการรักษาดีกว่า...หรือต้องเพิ่มปริมาณ ตัวยาเดิมให้มากขึ้น หรือใช้ระยะเวลาในการรักษานานขึ้น
ด้วยเหตุผลนี้เองจึงได้หันมาวิจัยประสิทธิภาพของ ข่าจากตำรับยาไทยแผนโบราณที่เข้าเครื่องยารักษาผิวหนังอักเสบจากแบคทีเรีย และโรคผิวหนังจากเชื้อรา เอามาเป็นต้นแบบในการทำวิจัย
ขั้นตอนการวิจัยนี้ได้สกัดสาร ละลายชนิดต่างๆเพื่อที่จะทราบว่า ชนิดใดจะมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรีย Staphylococusaureus, Pseudomonas aeruginosa และ Escherichia coli จึงได้ นำสารละลาย 4 ชนิด คือ เฮกเซน, โคลโรฟอร์ม, เอทิลอะซิเตท และเมทานอล ที่ระดับความเข้มข้น 160 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร โดยวิธี Agar well diffusion มาทดลองทำลายและสกัดการเจริญเติบโตของเชื้อดังกล่าว
ก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า สารสกัดข่าที่สกัดด้วยตัวทำ ละลายโคลโรฟอร์ม และ เอทิลอะซิเตท มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียทั้ง 3 ชนิด...ได้ดีกว่าสารสกัดข่าที่สกัดด้วยตัวทำละลายเฮกเซน และเมทานอล

ไม่มีความคิดเห็น: